เทคนิคการจับกุม
1. ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจพื้นที่นั้นๆ ในตอนบ่ายๆวันเสาร์ ในขบวนการจะมีพรรคพวก8-9 ตัวและตำรวจในเครื่องแบบ 1 คน
2. มีการกล่าวอ้าง ปดส. กระทรวงวัฒนธรรม และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตรวจในอนุญาตฉาย เข้ามาตรวจค้นเครื่องคอมพิวเตอร์ (ถ้าเกิดข้อโต้เถียงที่โรงพักเกี่ยวกับการแอบอ้าง บริษัทเจ้าของลิขสิทธ์จะบอกว่าไม่ได้พูดเรื่อง ปดส.และกระทรวงวัฒนธรรม)
3. กล่าวอ้างตรวจค้น เกมส์ต้องห้าม สื่อลามกอนาจร คลิปอนาจารที่เป็นข่าวดังในขณะนี้ก่อนเพื่อง่ายต่อการเข้าตรวจค้นเพราะกระทำในเวลากลางวันไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น เมื่อเข้าตรวจค้นได้แล้วจึงกล่าวถึงลิขสิทธิ์เพลง และค้นเจอเพลงMP3
4. เป็นที่ทราบกันดี เรื่องกลอุบายของบริษัทลิขสิทธิ์เพลง เหมือนที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ เช่น การส่งคนเข้ามาแอบดาวน์โหลดเพลง เมื่อตรวจพบจะยกเครื่องที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไปด้วย ดีวีดีไลท์ซึ่งจะมีใช้ทุกร้านเพื่อใช้ในการลงวินโดส์หรืออื่นๆ(เป็นข้ออ้างใช้สำหรับประกอบการค้า เช่น สามารถไลท์แผ่นขายได้) ฮัพ จอ 1 จอ(เน้นยกจอราคาแพงๆ)
5. สื่นลามกอนาจารหรือ คลิปมือถือ ก็เช่นเดียวกับ เพลง โดยทราบกันดี อยู่แล้ว ว่า ร้านเกมส์ต่างๆเปิดบริการให้เช่าเครื่องเพื่อเล่นเกมส์ออนไลท์หรือใช้บริการอินเตอร์เน็ต คลิปมือถือเป็นไฟล์เล็กๆ สามารถดาวน์โหลดเสร็จได้ใช้เวลาเพียงน้อยนิด
6. ต่อรองเรียกค่าเสียหายจากเรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงถ้าไม่ยอมตกลง ทางร้านจะโดนคดีเกี่ยวกับคลิปลากอนาจารหรือเป็นสื่อลามกอนาจาร ซึงทางเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือเจ้าของลิขสิทธิ์โดยการกดดัน ร้านอินเตอร์เน็ต ต่างๆ นานา เช่นจะออกเวรแล้ว เคลียกันให้จบๆเพราะเป็นเรื่องที่ยอมความกันได้จะได้ไม่ต้องทำเรื่องส่งศาลให้เกิดประวัติที่ไม่ดี(เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เรื่องลิขสิทธิ์เพลง ถ้าต่อสู้ในชั้นศาลทางร้านเกมส์จะพ้นผิดดังที่มีการยกการตัดสินคดีในชั้นศาลฏีกา มาแสดงให้ทราบโดยทั่วกัน)
สิ่งที่ร้านอินเตอร์เน็ต ต้องพิจารณาเพิ่มขึ้นเนื่องจากกลอุบายของ บริษัท เจ้าของลิขสิทธิ์เพลง คือ สื่อลามกหรือคลิปลามกอนาจาร ซึ่งกระแสทางสังคมในเรื่องนี้กำลังมาแรงเป็นที่จับตาอยู่ในขณะนี้ คลิปลามกอนาจารเหล่านี้ ใช้เวลาดาวน์โหลดเพียงนิดเดียว ซึ่งใช้กลอุบายเช่นเดียวกับเพลงMP3ทำให้ร้านเกมส์ต่างต้องนำมาพิจารณาในการยอมความเรื่องค่าเสียหายจากลิขสิทธิ์ เพราะ พรบ. 2550 เรื่องการ log file หรือการเก็บข้อมมูลในการใช้บริการของลูกค้า(ยิ่งกว่าสถานบันเทิงหรือแหล่งมั่วสุมในเวลากลางคืนเสียอีก) ทุกร้านเก็บข้อมูลอยู่ในระดับไหน(ต้องเก็บประวัติลูกค้ายิ่งกว่าผู้ต้องหายเสียในสถานีตำรวจอีก)
7.ถึงแม้ว่าทางเจ้าของร้านเน็ตจะทราบดีอยู่แล้วในเรื่องคดีความว่าจะชนะคดีมีความเป็นไปได้สูง แต่ก็เกิดความกดดัน และไม่แน่ใจหรือมั่นใจในคดีความที่จะเกิดขึ้น เกิดความยุ่งยาก เสียเวลา มีค่าใช้จ่ายเช่นการประกันตัวและต่อสู้คดี ในชั้นตำรวจและศาล จึงทำให้ บริษัทที่ได้รับลิขสิทธิ์นี้ มีโอกาสในการใช้ช่องโหว่หรือช่องว่างทางกฏหมายหากินกับร้านเกมส์และอินเตอร์เน็ต
บางท่านอาจคิดว่าทำไมโง่ถึงยอมจ่ายค่าเสียหายให้บริษัทเหล่านั้น ท่านลองตอบคำถามเหล่านี้
-ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี กับการยอมจ่ายค่าเสียหายตามที่ บริษัทที่ได้ลิขสิทธิ์เรียกร้อง อันไหนถูกแพงกว่ากัน
-การสูญเสียเวลา โอกาส และความยุ่งยากต่างๆ กับการยอมความจ่ายค่าเสียหายตามที่เรียกร้องและเรื่องจบ
-ภาวะความกดดันที่เกิดขึ้นกับเข้าของร้าน บุคคลภายนอกมองไม่เห็น การไม่มีหลักประกันที่แน่นอนในการต่อสู้คดี
เหตุเกิดที่ ย่านบางนา วันที่ 18 ต.ค 2551 เจ้าของร้านต่างเลือกที่จะยอมจ่ายค่าเสียหายหรือต่อรอง ตามที่บริษัทได้รับลิขสิทธิ์เรียกเร้องทุกราย รวมทั้งผมด้วยครับ ทุกท่านโปรดระวัง มันจะไปเยือนท่านทุกที่แน่นอนเพราะถือเป็นขุมทรัพย์ที่ได้มาง่าย