จริงๆ ถ้าทุกจังหวัดอนุญาตให้ร้านเกมส์เปิดได้24 ชม. ทั่วทั้งประเทศ (แต่กฎเรื่องเด็กต่ำกว่า 18 ปีคงเดิมไว้) ปัญหาเรื่องส่วยจะหมดไปทันที
จากประสบการณ์ เรื่องเด็กเล่นเกมส์เนี่ย บอกได้เลยว่าเด็กมันก็มีความคิดครับ มันไม่ได้เชื่อฟังกันง่ายๆหรอก
1. เรื่องกำหนดเวลาเด็กเล่นเกมส์ต่อวัน มันกำหนดไม่ได้หรอกมันอยู่ที่งบประมาณของเด็กเองว่ามีเงินเท่าไร ไม่ว่าจะกำหนดเวลาโดยร้านหรือโดยบริษัทเกมส์ เพราะเด็กคนหนึ่ง มีรหัสเกมส์หลายไอดี แล้วข้อมูลก็ปลอมทั้งหมด จะให้ร้านเน็ตเป็นคนบอกให้เด็กเลิกเล่น ถ้าคิดแบบทุกร้านเป็นร้านดีกันหมดนะครับ ให้เด็กเล่นแค่สามชั่วโมง มันก็จะกลายเป็นเข้าร้านนี้สามชั่วโมง เข้าร้านนู้นอีกสามชั่วโมงสลับกันไป (แต่ในความเป็นจริง ใครอยากจะไล่ลูกค้าครับ)
2.ปัญหาเรื่องเด็กอ่านหนังสือไม่ออก ต้องถามครูและผุ้ปกครอง ว่าได้ให้การบ้าน และดูแลลูกให้ทำการบ้านไหมพ่อแม่รู้ไหมว่าวันนี้ลูกมีการบ้านอะไรต้องทำบ้าง
3. แล้วพวกเด็กวัยรุ่นที่ออกมาซิ่งรถ กันตอนกลางคืน หรือเด็กสาวไปขลุกอยู่บ้านเด็กผู้ชายทั้งวันทั้งคืน พ่อแม่รู้บ้างไหม เคยสนใจบ้างไหม
ก็น่านน..น น่ะซี๊
ในความคิดของผมนะ เด็กจะเป็นยังไง มันขึ้นอยู่กับการสภาพแวดล้อมทางครอบครัว เช่น คนเป็นพ่อเป็นแม่ใช้เวลาอยู่กับลูกของตนเองมากน้อยขนาดไหน? มีการพูดคุยและอบรมสั่งสอนยังไง
สังคมเพื่อนฝูงเป็นยังไง เพราะเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่มั่กจะติดเพื่อนมากกว่าติดพ่อแม่
จะให้ทางร้านมาบังคับเด็กว่าให้เล่นไม่เกิน 3 ชม. ต่อวัน คงจะทำไม่ได้หรอกครับ เด็กจะมีเงินมาเล่นแค่ไหน เขาก็เล่นแค่นั้น
ส่วนเรื่องไม่ให้เด็กต่ำกว่า 18 เข้าใช้บริการก่อนบ่าย 2 โมง และหลัง 4 ทุ่ม ผมว่ายากนะที่จะแยกแยะเด็ก
บางคนหน้าแก่โคตรๆแต่อายุไม่ถึง บางคนหน้าโคตรเด็กแต่อายุแก่ ไอ่จะขอดูบัตรเหมือนตามผับตามบาร์มันก็กระไรอยู่นะครับ
เดี๋ยวลูกค้าจะหายหมด อดได้เงิน พาให้อดตายจนขายร้านทิ้ง แล้วกลับไปเลี้ยงกวาง(ควาย)ที่บ้าน ก็ใช้ที่นะครับ
เรื่องส่วย อย่าพูดถึงเลยครับ มันอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานมากๆ จะเท้าความถึงเรื่องการเก็บส่วย ก็คงจะหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอหรอกครับ เพราะไม่รู้มาจากยุคใดสมัยใด