ผลวิจัยชี้ครูไม่มีความรู้ไอทีเกือบครึ่ง
(http://www.se-ed.com/Images/Contents/Technology/170420070648307308.jpg)
วิจัยพบครูไม่มีความรู้ด้านไอที ร้อยละ 36 สถานศึกษาเกินครึ่งมีคอมพิวเตอร์ ไม่เกิน 20 คน ต่อ 1 เครื่อง เฉลี่ยใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ได้ในระดับปานกลาง “สมชาย” กำชับให้เด็กใช้ประโยชน์มากกว่าแชตไลน์และเล่นเกม
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ทำการวิจัยสำรวจการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่มีต่อการปฏิรูปการเรียนรู้ โดยได้ศึกษาพฤติการณ์ใช้คอมพิวเตอร์ของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และนักเรียน ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 28,929 คน พบว่า มีสถานศึกษาที่มีครูไม่มีความรู้เกี่ยวกับไอซีทีถึงร้อยละ 36 ขณะที่สถานศึกษาประมาณร้อยละ 55 มีอัตราส่วนนักเรียนต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เกิน 20 คนต่อหนึ่งเครื่อง รองลงมาคือ ร้อยละ 25 มีอัตราส่วน 21-40 คนต่อหนึ่งเครื่อง และอีกร้อยละ 20 ที่มีอัตราส่วนนักเรียนมากกว่า 40 คนต่อหนึ่งเครื่อง สำหรับการใช้ไอซีทีเพื่อประโยชน์ในการบริหาร โดยเฉลี่ยแล้วโรงเรียนส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง
สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญเกี่ยวกับการใช้ไอซีทีในสถานศึกษา คือ โรงเรียนขาดซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ไอซีที มีการนำมาใช้ในการบริหารและการเรียนการสอนในระดับน้อย ในส่วนของนักเรียนสามารถใช้ประโยชน์จากไอซีทีในการเรียนได้ในระดับปานกลางเช่นเดียวกัน โดยมีปัญหาอุปสรรคสำคัญ คือ ขาดอุปกรณ์ไอซีที ซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่มีอยู่ อยู่ในสภาพที่ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ผู้วิจัยได้สรุปข้อเสนอแนะในระดับกระทรวง โดยเห็นว่า ควรให้มีการจัดทำแผนแม่บทไอซีทีของ ศธ.ควบคู่ไปกับการจัดสรรอุปกรณ์ไอซีทีของแต่ละองค์กรหลัก ทั้งนี้ในส่วนของ สพฐ.ควรจัดสรรอุปกรณ์ไอซีที ให้กับสถานศึกษาต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน โดยควรเน้นเรื่องการสนับสนุนให้มีการใช้อย่างถูกต้อง เพื่อเปิดโลกกว้างให้เด็กมีความรู้ที่หลากหลาย และก้าวทันเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รมว.ศึกษาธิการ ก็กำชับว่า ในการพัฒนาไอซีทีในโรงเรียน ควรมีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมให้กับครู และพยายามให้เด็กได้ใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้มากกว่าการแชตไลน์ และเล่นเกม
แหล่งข่าว :: ผู้จัดการออนไลน์
************************************************************************
อ่านข่าวแล้วตกใจ เกิดอะไรขึ้นกับพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติ ซึ่งน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง เพราะโรงเรียนเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาหาความรู้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่นักเรียน นักศึกษา จะมีความรู้ต่างๆ มาจากบ้าน ต่างคนต่างคาดหวังสูง ที่จะมาศึกษาหาความรู้ที่โรงเรียน และหากการวิจัยนี้เป็นความจริง ผลกระทบอันยิ่งใหญ่ คงไม่พ้นอนาคตของชาติเป็นแน่แท้ และอีกประการหนึ่งคือ เมื่อต้นทางไม่มีความรู้ด้านไอที ก็จะมีแนวคิดกลับหลัง มองกิจการด้านไอทีแบบผิดๆ เช่น ร้านเนทและเกมอย่างเราๆ แต่หารู้ไม่ว่า เป็นการปลูกฝังการเข้าถึงไอทีแบบ "น้ำซึมบ่อทราย"