หมวดหมู่แรก > Adsl & BroadBand

ADSL Internet

(1/13) > >>

jasda2003:


บ้านอยู่ห่างจากชุมสายเท่าไรจึงใช้ได้(ดี)
ระยะห่างจากที่บ้านไปถึงชุมสายมีความสำคัญนะครับ เพราะว่ายิ่งอยู่ห่างกันมาก โอกาสที่สัญญานจะสูญเสียก็จะเพิ่มสูงตามไปด้วย เอาเป็นว่ายิ่งอยู่ห่างมากโอกาสเกิดปัญหาก็ยิ่งมากขึ้น ทั้งนี้หากอยากทราบระยะห่างก็ให้โทรไปเช็คที่ชุมสายนะครับ เค้าจะบอกได้ว่าที่ตั้งชุมสายที่เบอร์โทรที่บ้านสังกัดอยู่ อยู่ที่ไหน
ผมได้ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.nettonet.com/ ดังตารางข้างล่างนี้นะครับ



ยิ่งอยู่ไกล ยิ่งได้ค่าความเร็วสูงสุดที่ลดลงนะครับ ดังนั้นจะไม่มีประโยชน์หากใช้ความเร็วสูงกว่าที่เป็นไปได้ นอกจากนั้นแล้วข้อมูลได้มาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผมเชื่อว่าคุณภาพสายอาจแตกต่างจากที่บ้านเรา (บ้านเราอาจคุณภาพแย่กว่า) ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจกับ Promotion ที่เลือกใช้นะครับ ข้อมูลเป็นกราฟฟิกมีที่นี่ครับ

ADSL หลุดบ่อย
ตอนติดตั้ง ADSL ใหม่ๆ พบว่า ADSL ผมหลุดบ่อยเช่นกันครับ เริ่มต้นให้เช็คสัญญานจาก ADSL ก่อนนะครับ ปัญหาโดยส่วนใหญ่เป็นเพราะคุณภาพการเดินสายระหว่างบ้านกับชุมสายไม่ดี การเดินสายในบ้านไม่ดี สัญญานรบกวนเยอะ และบ้านอยู่ไกลชุมสาย ซึ่งอันนี้ยากนะครับที่จะแก้ (อาจต้องย้ายบ้านไปใกล้ชุมสาย หรือย้ายชุมสายมาใกล้บ้านครับ) หากอ่านค่า DownstreamSignal/Noise Ratio SNR แล้วพบว่าค่าต่ำกว่า 6 ควรเปลี่ยน Package ครับ การใช้ความเร็วสูงเกินไป เช่น 1024/256 ทำให้หลุดบ่อย เสียความรู้สึกเปล่าๆ  ลองให้ใช้ความเร็วที่ลดลงจะมีความเสถียรที่มากกว่าครับ

หากท่านคิดว่าไม่ได้แล้ว ยังไงต้องลองดู ก็ให้พยายามเพิ่ม SNR ให้เกิน 6 db ให้ได้ ก็ให้พยายามหา Filter หรือ Splitter ตัวใหม่ ที่บ้านผมซึ่งใช้ตู้สาขา PABX ก็ต้องต่อนะครับ ผมลองลดความยาวสายลง เดิมที่เคยแนะนำไว้เรื่องการเพิ่ม Low pass filter นั้น มีท่านผู้รู้แนะนำไว้ว่าไม่ควรครับ ต้องขอขอบคุณไว้ด้วยครับ

ขั้นตอนต่อมาคือหาทางป้องกันการรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า EMI (ElectroMagnetic Interference) หรือ RFI (Radio Frequency Interference)
อย่าให้ Modem (หรือ router หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับ ADSL) อยู่ใกล้สิ่งเหล่านี้

หลอดไฟฮาโลเจน หลอดไฟ Fluorescent (บ้านเราเรียกว่าหลอดนีออน) โทรศัพท์ไร้สาย วิทยุสื่อสาร และก็ลงทุนซื้อปลั๊กต่อดีดี ที่มีตัวกรองสํญญานรบกวนนะครับ ทั้งนี้ UPS ดีๆ ก็มีตัวกรองสัญญานครับ

สุดท้าย ถ้าทำอะไรไม่ได้เลย ต้องคุยกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ โดยคุยกับชุมสายนะครับ ให้เค้าทดลองอดสอบสัญญานดูว่าเป็นอย่างไร หากมีเหตุผลดีพอ เค้ายินดีจะเปลี่ยนคู่สายให้หากในแถวนั้นมีว่าง ปัญหาก็น่าจะหมดไปได้ครับ

ผมได้ข้อมูลมาจาก Website นี้ครับ เป็นภาษาอังกฤษนะครับ http://www.dslreports.com/

ค่าสถิติที่อ่านได้จาก ADSL connection



ผมก็เป็นมือใหม่ และพบว่ามีปัญหาในการ Sync สัญญานกับ ADSL บ้าง นี่เป็นตัวอย่างค่าที่อ่านได้จาก Modem ครับ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาที่ถูกหลักการครับ

Us Rate (Kbps) 256
Ds Rate (Kbps) 512

สองค่านี้ควรได้ค่าตามที่สมัครไว้ Ds คือการ Download ข้อมูลจาก Internet มาที่เครื่องเรา Us คือการ Upload จากเครื่องเราไปที่ Internet หากค่าที่ได้ไม่ตรง (ต่ำกว่า) ที่สมัครไว้ นั่นคือมีปัญหาครับไม่ได้ Bandwidth เต็มตามที่สมัครไว้

US Margin (dB) 24
DS Margin (dB) 14

เป็นค่าสัดส่วนเทียบระหว่างสัญญานที่ได้จริงกับสัญญานรบกวน Signal/Noise ratio หากยิ่งมากยิ่งดีครับ

6dB หรือต่ำกว่า จะติดยาก หลุดบ่อย และเป็นไปได้ยากที่จะได้ค่าความเร็วสูงสุด
7dB-10dB ใช้ได้ แต่มีโอกาสหลุดเช่นกัน
11dB-20dB ดีครับ ไม่มีปัญหาในการติดต่อ
20dB-28dB ดีมาก
29dB หรือมากกว่า ดีเยี่ยม

DS Line Attenuation (dB) 63
US Line Attenuation (dB) 63

ทั้งคู่เป็นตัวบอกว่ามีการสูญเสียสัญญานระหว่างชุมสายกับบ้านมากนอกแค่ไหน ยิ่งน้อยยิ่งดีครับ

20dB หรือต่ำกว่า ดีสุด
20dB-30dB ดีเยี่ยม
30dB-40dB ดีมาก
40dB-50dB ดี
50dB-60dB แย่ ติดต่อยาก
60dB หรือมากกว่า แย่ ติดยาก หลุดบ่อย
Path Mode Interleaved

อย่างไรก็ตาม BT ได้แนะนำไว้ครับว่าการสูญเสียสัญญานไม่ควรเกินกว่า 43dB สำหรับการใช้งานที่ระดับ 2Mbps และ 60 dB สำหรับการใช้งานที่ระดับ 1 Mbps ส่วนกรณี 512 bps ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใดนัก แต่อย่างที่เรียนไว้ครับว่า ยิ่งน้อยยิ่งดีนะครับ

CRC Rx Fast 0
CRC Tx Fast 0
CRC Rx Interleaved 2
CRC Tx Interleaved 4

ในกรณีที่ modem กับชุมสายอยู่ไกล และ/หรือ มีสัญญานที่ไม่ดี ผู้ให้บริการจะกำหนด Path Mode เป็น Interleaved โดยเป็น Protocol ที่ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่สัญญานจะเข้ามา เพื่อให้ได้ความเสถียรของระบบที่ดีขึ้น และลดการเกิด Loss ของสัญญานครับ และหากเป็นกรณีของ Fast ก็จะไม่มีการใช้ Protocol ดังกล่าวครับ

ค่า CRC (Cyclic Redundancy Check) เป็นวิธีการวัดเพื่อเป็นตัวบอกถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ค่าที่สูงตั้งแต่เริ่ม sync สัญญานไม่เป็นไรครับ แต่หากใช้งานไปแล้วค่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ มีปัญหาแน่ครับ

เข้า Website บางที่ไม่ได้ หรือช้าไป
ตอนนี้เป็นการอธิบายการปรับค่า MTU (maximum transmission unit) เพื่อความเหมาะสม และแก้ไขปัญหาการเข้า Web บางที่ไม่ได้

ในการใช้ Windows และเมื่อมีการเชื่อมกับ Internet โดยใช้ connection เป็นแบบ PPPoE อาจพบปัญหาเข้า website บางประเภทไม่ได้ โดยอาจเป็นเหตุผลจากการที่ MTU ไม่สอดคล้องกัน เพราะค่า Default ของ Windows XP เป็น 1480 ส่วนของ PPPoE ต้องมีค่าเท่ากับหรือต่ำกว่า 1492 แต่เราควรตั้งค่าไว้ที่เท่าไรดี?

จาก www.dslreports.com มีข้อแนะนำไว้ครับว่า สามารถหาค่า MTU ที่สูงสุด โดยยังสามารถเข้าไปใน website ทุกที่ได้โดยวิธีการดังนี้

ไปที่ START แล้วเลือก Run… ครับ จากนั้นพิมพ์ cmd (เราจะเข้าไปใน dos command) รูปตัวอย่างที่นี่ครับ



ใน dos ให้พิมพ์ ping www.hotmail.com -f -l 1490 โดยที่ที่อยู่ website อาจเป็น web ที่เป็นปัญหาอย่างอื่นของเราก็ได้นะครับ รูปตัวอย่างที่นี่ครับ



หากขึ้นเป็น error ว่า Packet needs to be fragmented but DF set. แสดงว่า MTU นั้นสูงเกินไป ครางนี้เราก็ทดลองลดค่าตัวเลขที่ใช้ Ping ลงทีละ 10 นะครับ เช่น

ping www.hotmail.com -f -l 1480

ลดลงไปจนกระทั่งได้ที่ 1430 และไม่พบปัญหาดังนี้ครับ (ค่าที่สูงสุดโดยไม่มีปัญหา มักจะดีสุดนะครับ ค่าที่ผมได้ไม่จำเป็นต้องเท่ากับค่าที่คุณจะได้นะครับ) รูปตัวอย่างที่นี่ครับ



อย่างนี้แสดงว่าผ่านครับ

คราวนี้เราก็นำค่าที่ได้ เช่นผมได้ค่าสูงสุดเป็น 1430 ดังนั้นจึงนำมาบวกเพิ่มอีก 28 ครับ เหตุที่ต้อง 28 เพราะว่า 20 bytes แรกเป็นค่าที่เก็บไว้สำหรับ IP header และ 8 bytes มีไว้สำหรับ ICMP Echo request header ดังนั้นผมจึงต้องใช้ 1430+28 = 1458

เราต้องนำค่าที่ได้ไปปรับค่าที่ router หรือ modem ที่ท่านใช้กับ ADSL ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อนะครับ ให้ศึกษาจากคู่มือ (หาอ่านได้จาก website ไทยอื่นๆ ได้นะครับ)

ส่วนอีกค่าที่ต้องปรับคือตัว windows XP เอง โดยวิธีการที่ยุ่งยากอ่านได้จากที่นี่ครับ http://www.microsoft.com/windowsxp/using/networking/learnmore/ppoe.mspx ส่วนวิธีที่ง่ายกว่า ให้ไป download software ชื่อว่า DrTCP ที่ http://www.dslreports.com/front/drtcp.html  เมื่อ run program แล้วจะได้หน้าตาแบบนี้ครับ ให้เลือก Network adapter ที่ใช้กับ ADSL เช่นกรณีผมเป็น Wireless LAN ก็ใส่ค่า 1458 ที่ได้จากที่หามาได้ใส่ลงไปครับ จากนั้นคลิก Save แล้วก็ restart windows ครับ เป็นอันเสร็จพิธี



ปริมาณความจุของช่องสัญญาณ (Bandwidth) ไม่ใช่ความเร็ว (Latency)

เวลาที่คุยกันเรื่องความเร็วของ Internet เมื่อขอใช้บริการ ADSL เรามักจะเรียกว่าเป็น 512K หรือ 1 Mbps ในลักษณะแบบนั้นนะครับ แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ผู้ให้บริการบอกแก่เราเมื่อสมัครใช้บริการนั้นคือ ปริมาณความจุของช่องสัญญาณ (Bandwidth) ไม่ใช่ความเร็ว (Latency) นะครับ

ปริมาณความจุของช่องสัญญาณ (Bandwidth) และความเร็ว (Latency) เป็นคนละเรื่องกัน อย่างไรก็ตามทั้งสองสิ่งต้องมีความสัมพันธ์กัน เพื่อให้ได้การโหลดข้อมูล หรือ website ที่รวดเร็วนะครับ หากเปรียบเทียบแล้ว ปริมาณความจุของช่องสัญญาณเปรียบเสมือนกับท่อส่งน้ำครับ ว่ามีขนาดใหญ่แค่ไหน แต่หากว่าท่อใหญ่แต่ไม่มีน้ำ หรือท่อใหญ่แต่น้ำไหลช้าก็ย่อมทำให้เราได้น้ำน้อย (หรือก็คือปริมาณข้อมูลต่างๆ น้อยครับ)

โดยทั่วไปเวลาเราวัดความเร็ว (Latency) มักมีหน่วยวัดเรียกเป็น milliseconds (หรือ 0.00X วินาที) เทคนิคที่ใช้ในการวัดที่ง่ายสุดก็คือการ ping ครับ วิธีการใน windows คือไปที่ Start – Run และพิมพ์ cmd เมื่อได้หน้าต่างเป็นเหมือน DOS ก็พิมพ์ ping และตามด้วย ที่อยู่ครับ เช่น

ping www.yahoo.com 

หรืออาจเป็นหมายเลข IP ก็ได้นะครับ เช่น

ping 68.142.197.76

ชุดข้อมูลขนาด 32 bytes จะถูกส่งไป-กลับ แล้วเราจะวัดค่าเป็นเวลาที่ใช้ในการไปและกลับ หากเป็น host ที่อยู่ไกลก็จะใช้เวลาที่มากกว่า host ในประเทศครับ และหากเห็นว่ามี packet lost แสดงว่าอาการน่าเป็นห่วงครับ นี่คือค่า latency โดยทั่วไปที่จะพบได้ครับ

Ethernet                     .3ms
Analog Modem      100-200ms
ISDN                          15-30ms
DSL/Cable              10-20ms
DS1/T1                     2-5ms

โดย Website ที่น่าสนใจอยู่ที่นี่ครับ http://www.dslreports.com/faq/694

ที่มา : http://www.drchaowalit.com/

NewweN:
หุๆๆ ฟามรู้อีกแล้ว สูปๆ   :D :D :D :D

jasda2003:

--- อ้างจาก: NewweN ที่ พฤษภาคม 22, 2006, 02:07:55 pm ---หุๆๆ ฟามรู้อีกแล้ว สูปๆ   :D :D :D :D

--- End quote ---

ความรู้เลยครับ

ใครมีข้อข้องใจสงสัยอะไร เกี่ยวกับ Adsl Internet ที่ท่านใช้อยู่ ที่นี้อาจมีคำตอบ  :) ซึ่งอาจจะทำให้หายข้องใจ + ปัญหาคาใจที่ท่านมีอยู่มานาน แสนนาน หายไป

ZealKung:
ละเอียดดีคับป๋ม ยิกๆๆ

Admin!:
ping www.hotmail.com -f -l 1480

มันPing ไป akamai ทางที่ดี ping ไป ip ของ isp เช่นถ้าใช้เนตของasianet ก็ ping มันไปที่ www.asianet.co.th หรือ ใช้คำสั่ง Tracert ตามด้วย URL เพื่อดูแต่หละ HOP เอา IP ที่ใกล้ที่สุดแล้วลองทำตามดูครับแจ่ม  ;)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version