๑. เข้าใจปัญหาของผู้ประกอบการ รวมกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ หากรวมตัวไม่ได้ให้แก้ไขเป็นรายบุคคลไป และต้องเข้าใจความต้องการของสังคมด้วย
๒. เปิดโต๊ะเจรจา และเชิญทุกฝ่ายเข้าร่วม ทั้งภาครัฐ อาทิ ตัวแทนจังหวัด, ตัวแทนวัฒนธรรม, ตัวแทนตำรวจ และผู้ประกอบการ
๓. สรุปผลการประชุมและนำเสนอต่อนายทะเบียนท้องที่โดยตรง
๔. หากยังมิได้ข้อสรุป ให้นำข้อเดือดร้อน และเอกสารการประชุม เสนอต่อกระทรวงที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อแก้ไขระเบียบและข้อกฏหมายต่อไป
ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญการเจรจาใดๆ กับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องแสดงออกถึงความเป็นมิตร มากกว่าการยกเอาแต่ข้อกฏหมาย เพื่อให้ประโยชน์ตกอยู่แก่ผู้ประกอบการ จนลืมคิดถึงภาคสังคมโดยเฉพาะเรื่องเด็กและเยาวชน สาเหตุที่ทางสภาฯ ออกมาย้ำเตือนประเด็นนี้บ่อยๆ ในช่วงนี้เพราะมีกลุ่มคนบางกลุ่ม ตระเวนออกให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเรื่องการให้บริการแก่เด็กต่ำกว่า ๑๘ ปี อย่างไม่เหมาะสม จนอาจทำให้ผู้ประกอบการในท้องที่นั้นๆ เดือดร้อนได้ในภายหลัง ดังตัวอย่างบางพื้นที่ โดนลดเวลาให้บริการมาแล้ว ดังนั้นประเด็นในเวลานี้คือผู้ประกอบการจะให้ใครเป็นตัวแทนท่านไปพูดแทนท่าน แล้วทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ และจะไม่ทำให้ท่านเดือดร้อน จะเป็นการดีที่สุด มีหลายๆ พื้นที่ มากคน มากความ บางพื้นที่สงบดี ก็เอาไม้ไปกวนให้น้ำมันขุ่นเล่นซ่ะชั้น (บางคนชอบที่จะเดินชนข้างฝา ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม รู้ๆ ว่ามันเดินไปไม่ได้ก็จะเดิน...งง)